วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วัตถุดิบ
สำหรับ 8-10 ชิ้น
1. โอริโอ้ 137 กรัม
2. ครีมชีส 50 กรัม
3. ดาร์คช็อกโกแลต 100 กรัม
4. ไวท์ช็อกโกแลต 300 กรัม
5. สีผสมอาหาร ตามชอบ
6. น้ำตาลแต่งหน้าเค้ก ตามชอบ
วิธีทำ
1. บดโอริโอ้ให้ละเอียดด้วยเครื่องบดหรือครก
2. ผสมโอริโอ้บดกับครีมชีสผสมให้เข้ากัน
3. ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดที่ใส่ในพิมพ์หลวมนิดหน่อย
4. ละลายไวท์ช็อคโกแลต ผสมสีตามชอบ
5. ตักใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้
6. ใส่ก้อนเค้กป๊อปที่ปั้นเตรียมไว้ลงในช็อคโกแลต
7. นำเข้าตู้เย็นประมาณ 10-15 นาทีจนแข็ง
8. แกะเค้กป๊อปออกจากพิมพ์
9. นำไม้เค้กป๊อปมาเสียบ โดยใช้เหล็กแท่ง BBQ รนไฟให้ร้อน เสียบที่ก้นเค้กป๊อปให้เป็นรู (นำทาง)
10. ใช้ไม้เค้กป๊อปจิ้มช็อคโกแลตที่ละลายอยู่นิดนึงตรงปลาย
11. เสียบลงไปให้ถึงเนื้อเค้กป๊อป
12. ทิ้งที่เสียบไว้จนแห้งสนิท
13. นำด้านบนชุบช็อคโกแลตให้ถึงด้านขอบถ้วย
14. โรยเกล็ดน้ำตาลตามชอบ
สำหรับ 8-10 ชิ้น
1. โอริโอ้ 137 กรัม
2. ครีมชีส 50 กรัม
3. ดาร์คช็อกโกแลต 100 กรัม
4. ไวท์ช็อกโกแลต 300 กรัม
5. สีผสมอาหาร ตามชอบ
6. น้ำตาลแต่งหน้าเค้ก ตามชอบ
วิธีทำ
1. บดโอริโอ้ให้ละเอียดด้วยเครื่องบดหรือครก
2. ผสมโอริโอ้บดกับครีมชีสผสมให้เข้ากัน
3. ปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดที่ใส่ในพิมพ์หลวมนิดหน่อย
4. ละลายไวท์ช็อคโกแลต ผสมสีตามชอบ
5. ตักใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้
6. ใส่ก้อนเค้กป๊อปที่ปั้นเตรียมไว้ลงในช็อคโกแลต
7. นำเข้าตู้เย็นประมาณ 10-15 นาทีจนแข็ง
8. แกะเค้กป๊อปออกจากพิมพ์
9. นำไม้เค้กป๊อปมาเสียบ โดยใช้เหล็กแท่ง BBQ รนไฟให้ร้อน เสียบที่ก้นเค้กป๊อปให้เป็นรู (นำทาง)
10. ใช้ไม้เค้กป๊อปจิ้มช็อคโกแลตที่ละลายอยู่นิดนึงตรงปลาย
11. เสียบลงไปให้ถึงเนื้อเค้กป๊อป
12. ทิ้งที่เสียบไว้จนแห้งสนิท
13. นำด้านบนชุบช็อคโกแลตให้ถึงด้านขอบถ้วย
14. โรยเกล็ดน้ำตาลตามชอบ

โดนัดดด

โดนัทโฮมเมด นุ่ม ๆ เหนียว ๆ คุณก็ทำได้
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอมhttp://cooking.kapook.com/view108440.html
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ kongkan สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ยากไปมั้งถ้าจะให้ทำโดนัทกินเอง แต่ต่อไปนี้จะเป็นอะไรที่ง่ายมาก ๆ เพราะวิธีทำโดนัทที่เรานำมาฝาก เป็นแบบโฮมเมด ไม่ยากจนเกินความสามารถก็ได้โดนัทเนื้อเหนียวนุ่มไว้ในครอบครองแล้ว
[CR] โดนัท Homemade นุ่ม ๆ เหนียว ๆ เหมือน โดนัท KK โดย คุณ kongkan สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สวัสดีค่ะ สองสามวันมานี้นึกอยากรับประทานโดนัท มาทำงานอยู่บนเขาหาซื้อกินไม่ได้เลยต้องทำเอง ค้นหาสูตรในกูเกิ้ลมาลองทำ ได้มา 3 สูตร ลองทำออกมาแล้วยังไม่ถูกใจสักสูตร รสชาติจืดและเนื้อแน่นมาก (หรือทำไม่เป็นหนอ)
วันนี้ค้นวิดิโอในยูทูปหาดูสูตรโดนัทไปเรื่อย ก็ไปเจอเข้ากับ คลิป Doughnuts - By Vahchef @ vahrehvah.com เลยอยากลองทำอีกสักรอบ ไม่ได้คาดหวังอะไรมากค่ะ ไม่ได้ตั้งใจถ่ายรูปอะไรด้วย พอลองทอดชิ้นแรกออกมารีบชิม เฮ้ย ! ถูกใจมาก ต้องนุ่ม เหนียว และรสชาติกำลังดีแบบนี้สิ ถึงจะเหมือน โดนัทของ KK รีบถ่ายรูปแบบมือเปื้อน ๆ
สูตรนี้เรานวดมือนะ เหงื่อแตก เพราะแป้งค่อนข้างเหลว เรานวดในอ่างผสม แต่ผลออกมาเป็นที่ถูกใจมาก ชอบ เรานวด 40 นาที พัก 30 นาทีหรือขึ้นเป็น 2 เท่า ทุบไล่ลมแล้วพักต่ออีก 30 นาที หรือขึ้นเป็น 2 เท่า ถึงนำแป้งมาคลึงค่ะ ตัดแล้วก็พักต่ออีกให้โดนัทฟูขึ้นเท่าตัวเลย
ส่วนผสม แป้งโดนัท (**เราเบิ้ลสูตรจากต้นฉบับ ดัดแปลงตามวัตถุดิบที่มี และเพิ่มน้ำตาล ได้โดนัทประมาณ 17 ชิ้นใหญ่**)
น้ำตาลทราย 120 กรัม
ยีสต์ 15 กรัม
น้ำ 100 มิลลิลิตร
นมสดรสหวาน 140 มิลลิลิตร (เราใช้นมไทย-เดนมาร์ค รสหวานแทน กะจะให้หวาน)
เกลือป่น 5 กรัม (เราใส่แค่หยิบ 3 นิ้ว)
ไข่ไก่ (ขนาด 50-55 กรัม) 2 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม
เนยจืด 30 กรัม
ไขมันถั่วเหลืองสำหรับทอดโดนัท
ส่วนผสม น้ำตาลไอซิ่งสำหรับชุบโดนัท (**ได้สูตรมาจาก โดนัท foodtravel เคลือบโดนัทได้ครบทุกชิ้น)
นมสดรสหวาน 4 ช้อนโต๊ะ (เราใช้นมไทย-เดนมาร์ครสหวานแทน)
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลไอซิ่ง 330 กรัม
ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ น้ำตาลไอซิ่งสำหรับชุบโดนัท
1. นำนมสดและเนยใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน คนให้เนยละลาย
2. พอนมเดือดนิดหน่อย ใส่กลิ่นวานิลาลงไป ปิดไฟ
3. ใส่น้ำตาลไอซิ่งที่ร่อนแล้วลงลงไป คนผสมจนเนื้อเนียน จากนั้นใส่ผงโกโก้ ตั้งไฟต่อให้ร้อนแล้วคนอีก เพราะมันเย็นเร็วมาก **ต้องรีบชุบรีบทำนะคะ พอมันเริ่มแห้งเราก็ตั้งไฟต่อได้คะให้พอร้อนแล้วค่อยชุบต่อ**
วิธีทำ
นวดผสมน้ำตาลทราย ยีสต์ น้ำ นมสดรสหวาน เกลือป่น 5 กรัม ไข่ไก่ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และเนยจืดเข้าด้วยกันในอ่างผสม นวดด้วยมือประมาณ 40 นาที แล้วพัก 30 นาที หรือจนแป้งโดขึ้นเป็น 2 เท่า ทุบไล่ลมแล้วพักต่ออีก 30 นาทีหรือขึ้นเป็น 2 เท่า

คลึงแป้งให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วใช้แก้วกับก้นพิมพ์คุกกี้มากดแป้ง

ตัดแล้วก็พักต่ออีกให้โดนัทฟูขึ้นเท่าตัวเลย เราให้ฟูประมาณนี้

เราใช้ที่ตัดขนมปังมาช่วยในการย้ายโดนัท สะดวกและไม่เสียรูปทรงค่ะ


ใส่ไขมันถั่วเหลืองสำหรับทอดโดนัทลงในกระทะหรือหม้อ เราทอดตามคลิปในยูทูปเลย ใช้ไฟกลาง ทอดให้ขาวฟูทั้งสองด้านก่อน แล้วค่อยปล่อยให้เหลืองที่ละด้านนะคะ จะได้ขอบขาว ๆ มาด้วย

ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน นี่ค่ะ โดนัทที่ทอดเสร็จแล้ว ชอบอ่ะ มีขอบขาว ๆ ด้วย

นำไปชุบกับส่วนผสมน้ำตาลไอซิ่ง ไม่มีรูปตอนชุบนะคะ ทำคนเดียว เลอะไปหมด ฮ่า ฮ่า ฮ่า มีแต่รูปตอนชุบเสร็จแล้ว ไม่มีอะไรโรยด้วย ตามมีตามเกิด อิอิ
ขนมปังขิง
ส่วนผสมและสัดส่วน
ส่วนผสมของแห้ง
-----------------------
1. แป้งอเนกประสงค์ 1 ½ ถ้วย
2. ผงฟู ¾ ช้อนชา
3. ขิงผง ½ ช้อนโต๊ะ
4. อบเชยป่น 1 ช้อนชา
5. กานพลูป่นอ ¼ ช้อนชา
6. เบกกี้งโซดา ½ ช้อนชา
7. ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ ¼ ช้อนชา
ส่วนผสมของเปียก
-------------------------
1. เนยสดชรนิดจืด 3 ช้อนโต๊ะ
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทรายแดง 6 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลมะพร้าว 4 ช้อนโต๊ะ
(ตามสูตรฝรั่งเค้าจะใช้ โมลาส (molasses)
5. วานิลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับตกแต่งคุกกี้ขนมปังขิง
-------------------------------------------
1. ลูกเกด
2. รอยัล ไอซิ่ง (สูตรใส่ลิงค์ไว้ให้นะค่ะ)
*สามารถตกแต่งได้ตามจินตนาการเลยค่ะ เช่น เม็ดน้ำตาลหลากซี เกล็ดน้ำตาล ช็อกโกแลตชิพ*
-----------------------
1. แป้งอเนกประสงค์ 1 ½ ถ้วย
2. ผงฟู ¾ ช้อนชา
3. ขิงผง ½ ช้อนโต๊ะ
4. อบเชยป่น 1 ช้อนชา
5. กานพลูป่นอ ¼ ช้อนชา
6. เบกกี้งโซดา ½ ช้อนชา
7. ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ ¼ ช้อนชา
ส่วนผสมของเปียก
-------------------------
1. เนยสดชรนิดจืด 3 ช้อนโต๊ะ
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทรายแดง 6 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลมะพร้าว 4 ช้อนโต๊ะ
(ตามสูตรฝรั่งเค้าจะใช้ โมลาส (molasses)
5. วานิลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับตกแต่งคุกกี้ขนมปังขิง
-------------------------------------------
1. ลูกเกด
2. รอยัล ไอซิ่ง (สูตรใส่ลิงค์ไว้ให้นะค่ะ)
*สามารถตกแต่งได้ตามจินตนาการเลยค่ะ เช่น เม็ดน้ำตาลหลากซี เกล็ดน้ำตาล ช็อกโกแลตชิพ*
วิธีปรุง
1. เริ่มจากส่วนผสมที่เป็นของแห้ง เทส่วนผสมของแห้งทั้งหมดเข้าด้วย ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันพักไว้
2. ตีเนยสดกับน้ำตาลทรายแดงเข้าด้วยกัน ถ้าใช้เครื่องผสมใช้ความเร็วปานกลางถึงสูง ตีจนเนยเริ่มขึ้นฟูและมีสีอ่อน
3. ใส่น้ำตาลปี๊บ วนิลาลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นค่อยๆ เทส่วนผสมของของแห้งลงไป คนให้เข้ากันดีด้วยพายสำหรับผสม หรือถ้าใช้เครื่องผสม ลดความเร็วเป็นความเร็วต่ำ ผสมจนแป้งโดห์ที่ได้เนียนดีค่ะ
4. แป้งโดห์ที่ได้นำมาห่อด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 3 ชั่วโมง
5. ระหว่างรอเพื่อนๆ ก็สามารถ เตรียมวัตถุดิบ เพื่อตกแต่งคุกกี้ขนมปังขิงได้ตามจินตนาการเลยค่ะ วันนี้ที่ทำคุกกี้ขนทมปังขิง จะทำเป็นรูปเด็กน้อย เราจะใช้กระดาษวาดแล้วตัดเป็นแบบไว้ค่ะ
6. นำแป้งโดห์ที่ตัดเป็นรูปเด็กน้อย วางในถาดที่ปูด้วยกระดาษรองอบ โดยให้มีระยะห่างแต่ละตัวประมาณ 1 นิ้ว
7. นำไปอบที่อุณภูมิ 175 องศาเซลเซียส นานประมาณ 10 นาที เมื่อครบเวลาหรือจนกว่าขนมสุกดี นำออกจากเตา
8. ปล่อยเจ้าคุกกี้จิงเจอร์เบรดไว้ในถาดอบประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะแซะออกจากถาด นำมาพักบนตะแกรงจนเย็น แล้วตกแต่งคุกกี้ขนมปังขิงของเราได้ตามชอบ
2. ตีเนยสดกับน้ำตาลทรายแดงเข้าด้วยกัน ถ้าใช้เครื่องผสมใช้ความเร็วปานกลางถึงสูง ตีจนเนยเริ่มขึ้นฟูและมีสีอ่อน
3. ใส่น้ำตาลปี๊บ วนิลาลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นค่อยๆ เทส่วนผสมของของแห้งลงไป คนให้เข้ากันดีด้วยพายสำหรับผสม หรือถ้าใช้เครื่องผสม ลดความเร็วเป็นความเร็วต่ำ ผสมจนแป้งโดห์ที่ได้เนียนดีค่ะ
4. แป้งโดห์ที่ได้นำมาห่อด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 3 ชั่วโมง
5. ระหว่างรอเพื่อนๆ ก็สามารถ เตรียมวัตถุดิบ เพื่อตกแต่งคุกกี้ขนมปังขิงได้ตามจินตนาการเลยค่ะ วันนี้ที่ทำคุกกี้ขนทมปังขิง จะทำเป็นรูปเด็กน้อย เราจะใช้กระดาษวาดแล้วตัดเป็นแบบไว้ค่ะ
6. นำแป้งโดห์ที่ตัดเป็นรูปเด็กน้อย วางในถาดที่ปูด้วยกระดาษรองอบ โดยให้มีระยะห่างแต่ละตัวประมาณ 1 นิ้ว
7. นำไปอบที่อุณภูมิ 175 องศาเซลเซียส นานประมาณ 10 นาที เมื่อครบเวลาหรือจนกว่าขนมสุกดี นำออกจากเตา
8. ปล่อยเจ้าคุกกี้จิงเจอร์เบรดไว้ในถาดอบประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะแซะออกจากถาด นำมาพักบนตะแกรงจนเย็น แล้วตกแต่งคุกกี้ขนมปังขิงของเราได้ตามชอบ
เค้กกล้วยหอม
- แป้งสาลีบัวแดง 180 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
0
- น้ำตาลทราย 190 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 170 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 0)
- กลิ่นวานิลลาหรือกลิ่นกล้วยหอม 1 ช้อนชา
- กล้วยหอมสุกงอมบดละเอียด 200 กรัม
- นมสด (จืด) 60 กรัม
- โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) 40 กรัม
อุปกรณ์ในการทำเค้กกล้วยหอม
วิธีและขั้นตอนการทำ เค้กกล้วยหอม
- อุ่นเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่าง ไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน
- วางกระทงกระดาษหรือกระทงอลูมินัมฟอล์ยลงในพิมพ์อลูมิเนียมที่ขนาดเหมาะสมกัน แล้วเรียงไว้ในถาด
- ชั่งแป้ง ตวงผงฟูและเบกกิ้งโซดา ร่อนรวมกัน 2 ครั้ง ใส่ชามผสมใบกลาง
- ชั่งน้ำตาล ใส่เกลือ เทลงในของแห้ง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักส่วนนี้ไว้
- ปอกกล้วยหอมแล้วหั่นเป็นชิ้นย่อม ๆ ใส่ชามผสมใบเล็ก
- เทโยเกิร์ตและนมสดลงไป ใช้ที่บดกล้วยบดให้ละเอียดและเข้ากัน
- เติมกลิ่นกล้วยหอมหรือกลิ่นวานิลลาลงในส่วนผสมกล้วยบด คนให้เข้ากัน พักส่วนนี้ไว้
- ชั่งน้ำมันพืชให้ได้ตามสูตร ตอกไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่ชามผสมใบเล็ก
- คนด้วยส้อมหรือตะกร้อมือให้น้ำมันพืชและไข่เข้ากันดี
- เทส่วนของไข่และน้ำมันพืชลงในของแห้ง
- คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ไม่เห็นผงแป้งแล้วหยุดคนเลย พยายามกวาดตะกร้อมือให้ถึงก้นชามผสม ส่วนผสมจะข้นและหนืดมาก ไม่ต้องตกใจคับ
- เทส่วนของกล้วยที่บดไว้ลงไป โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง
- ใส่ครั้งแรกลงไปแล้วคนด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน อาจจะยังไม่เข้ากันดี ไม่เป็นไรคับ
- ใส่กล้วยบดส่วนที่เหลือลงไป คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี ส่วนผสมจะเหลว ไม่หนืดค่ะ
- ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ให้เกือบเต็มถ้วย เหลือพื้นที่ขอบถ้วยไว้ 2-3 มิลลิเมตร
- นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่างไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน 10 นาที
- ครบ 10 นาทีแล้ว ลดอุณหภูมิของเตาอบลงเหลือ 180 องศาเซลเซียส ยังคงไม่เปิดพัดลม อบต่อจนเค้กสุก เช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลางเค้ก ยกไม้จิ้มฟันแล้วไม่มีเศษเค้กแฉะ ๆ ติดขึ้นมาคับ
- เค้กสุกแล้วนำออกจากเตา พักไว้บนตะแกรง 5 นาที แล้วหยิบออกจากถ้วยวางผึ่งบนตะแกรงจนเย็น
คุกกี้เนยสดดดด

คุกกี้เป็นอีกหนึ่งขนมที่หลายคนชอบทำเพื่อนำไปมอบเป็นของขวัญ ของฝากให้กับคนสนิท เพราะทำง่าย และสามารถรับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นขนมพื้นฐานที่คนเริ่มทำเบเกอรี่ต้องลองทำ สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มทำ ไม่มีเตาอบ และยังไม่เป็นมือโปรในการทำขนม เราขอแนะนำวิธีการทำคุกกี้เนยสดด้วยไมโครเวฟ ที่ทำง่าย ๆ และความอร่อยก็ยังไม่แพ้เตาอบอีกด้วย
ส่วนผสม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
เนยสดชนิดเค็ม 300 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 170 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับผงฟู และเกลือป่นเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2.ตีผสมเนยสดกับน้ำตาลไอซิ่งด้วยเครื่องตีแป้งใช้หัวตีรูปใบไม้ ใช้ความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู หรือประมาณ 5 นาที ลดความเร็วลง ใส่ไข่ไก่ และน้ำหอมกลิ่นวานิลลา ตีผสมพอเข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เติมส่วนผสมแป้งลงไป ตีผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3.ตักส่วนผสมคุกกี้เป็นก้อนกลมลงในจานกระเบื้อง กดให้แบนด้วยส้อมเบา ๆ โรยด้วยน้ำตาลทรายแดง แต่งให้สวยงามตามต้องการ
4.นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-15 นาที จนคุกกี้สุกเหลือง (ไมโครเวฟแต่ละเครื่องใช้เวลาในการอบต่างกัน) นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น พร้อมรับประทาน http://cooking.kapook.com/view71213.html
มัฟฟินไข่อบหนมปังง

มัฟฟินไข่อบขนมปัง ดูวิธีทำได้ที่ anediblemosaic.com
มัฟฟินไข่อบขนมปัง
แค่มีขนมปังกับไข่ไก่ ก็สามารถทำเมนูอร่อย ๆ ได้ด้วยพิมพ์มัฟฟิน เพียงแค่นำขนมปังกดลงไปในพิมพ์มัฟฟิน ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป พร้อมกับปรุงรสเล็กน้อยตามความชอบก่อนนำไปอบเท่านั้นเอง เห็นไหมล่ะไม่มีอะไรยากเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม
ขนมปัง 2 แผ่น
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เนยสด
เกลือและพริกไทย
ต้นหอมซอย

มัฟฟินไข่อบขนมปัง
วิธีทำ
1. เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้
2. ตัดขนมปังให้มีขนาดพอดีกับพิมพ์มัฟฟิน เสร็จแล้วก็กดขนมปังลงไปในหลุม พร้อมกับตอกไข่ไก่ใส่ตามลงไป โรยหน้าด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย
3. นำส่วนผสมทั้งหมดไปอบประมาณ 14-18 นาที หรือจนกว่าไข่ขาวจะเริ่มสุก สามารถเพิ่มเวลาในการอบได้หากชอบรับประทานไข่ไก่สุก เมื่ออบเสร็จแล้ววางพิมพ์ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก่อนนำไปเสิร์ฟ http://cooking.kapook.com/view95874.html
มัฟฟิน อาหารเช้าจ้าาา
วิธีทำ
1. ตีครีมชีสจนเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด เติมพาร์มีซานชีสลงไป 1/4 ถ้วยตวง ตามด้วยไข่ไก่ ตีผสมให้เข้ากัน เติมซาวร์ครีม ผิวส้ม ผิวเลมอน กุยช่ายสับ เกลือ และพริกป่น คนให้เข้ากัน สุดท้ายเติมเนื้อปูลงไป เคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ผสมเกล็ดขนมปัง พาร์มีซานชีสที่เหลือ กุยช่ายสับ และเนยละลายด้วยส้อม คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. ตักส่วนผสมเกล็ดขนมปังใส่ลงในพิมพ์มัฟฟินหลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยส่วนครีมชีสปูหลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ ทับด้วยด้วยส่วนผสมเกล็ดขนมปังจนเต็มพิมพ์
4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 20 นาที หรือจนส่วนผสมด้านบนเป็นสีทอง นำออกจากเตาอบ พักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที นำออกจากพิมพ์ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
6. มัฟฟินอาหารเช้า
ใครว่ามัฟฟินจะรับประทานเป็นขนมได้อย่างเดียว ลองดัดแปลงส่วนผสมนิด ๆ หน่อย ๆ ก็สามารถกลายเป็นมัฟฟินแฮม เบคอน และชีสไว้ต้อนรับมื้อเช้าได้แบบสบายๆ และอิ่มท้องได้แล้ว
สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม
แป้งข้าวโพด 75 กรัม
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
นมสด 1 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมันข้าวโพด 6 ช้อนโต๊ะ
แฮมหั่นชิ้นเล็ก 240 มิลลิลิตร
เชดดาร์ชีสขูดฝอย 1/2 ถ้วยตวง
ต้นหอมผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พิมพ์มัฟฟินขนาด 12 หลุม
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ตีผสมนมสด ไข่ไก่ และน้ำมันข้าวโพดจนเข้ากัน ใส่ส่วนผสมแป้งลงไป ตีผสมจนเข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว ใส่แฮม ชีส ต้นหอมผักชีซอย และกระเทียมซอย คนผสมจนเข้ากัน
3. ตักส่วนผสมลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮท์ นานประมาณ 20 นาที หรือจนหน้ามัฟฟินสุกกรอบเป็นสีน้ำตาล
4. นำออกจากเตาอบ พักไว้สักครู่ให้มัฟฟินคลายความร้อน นำออกจากพิมพ์ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
1. ตีครีมชีสจนเป็นเนื้อครีมเนียนละเอียด เติมพาร์มีซานชีสลงไป 1/4 ถ้วยตวง ตามด้วยไข่ไก่ ตีผสมให้เข้ากัน เติมซาวร์ครีม ผิวส้ม ผิวเลมอน กุยช่ายสับ เกลือ และพริกป่น คนให้เข้ากัน สุดท้ายเติมเนื้อปูลงไป เคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ผสมเกล็ดขนมปัง พาร์มีซานชีสที่เหลือ กุยช่ายสับ และเนยละลายด้วยส้อม คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
3. ตักส่วนผสมเกล็ดขนมปังใส่ลงในพิมพ์มัฟฟินหลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยส่วนครีมชีสปูหลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ ทับด้วยด้วยส่วนผสมเกล็ดขนมปังจนเต็มพิมพ์
4. นำไปอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 20 นาที หรือจนส่วนผสมด้านบนเป็นสีทอง นำออกจากเตาอบ พักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที นำออกจากพิมพ์ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

มัฟฟินอาหารเช้า
6. มัฟฟินอาหารเช้า
ใครว่ามัฟฟินจะรับประทานเป็นขนมได้อย่างเดียว ลองดัดแปลงส่วนผสมนิด ๆ หน่อย ๆ ก็สามารถกลายเป็นมัฟฟินแฮม เบคอน และชีสไว้ต้อนรับมื้อเช้าได้แบบสบายๆ และอิ่มท้องได้แล้ว
สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 120 กรัม
แป้งข้าวโพด 75 กรัม
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
นมสด 1 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมันข้าวโพด 6 ช้อนโต๊ะ
แฮมหั่นชิ้นเล็ก 240 มิลลิลิตร
เชดดาร์ชีสขูดฝอย 1/2 ถ้วยตวง
ต้นหอมผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พิมพ์มัฟฟินขนาด 12 หลุม
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพด น้ำตาลทราย ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ตีผสมนมสด ไข่ไก่ และน้ำมันข้าวโพดจนเข้ากัน ใส่ส่วนผสมแป้งลงไป ตีผสมจนเข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว ใส่แฮม ชีส ต้นหอมผักชีซอย และกระเทียมซอย คนผสมจนเข้ากัน
3. ตักส่วนผสมลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮท์ นานประมาณ 20 นาที หรือจนหน้ามัฟฟินสุกกรอบเป็นสีน้ำตาล
4. นำออกจากเตาอบ พักไว้สักครู่ให้มัฟฟินคลายความร้อน นำออกจากพิมพ์ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มัฟฟินมินิฮอทดอก ดูวิธีทำได้ที่ iowagirleats.com
มัฟฟินมินิฮอทดอกhttp://cooking.kapook.com/view95874.html
ในเมนูนี้นอกจากจะได้ฟินไปกับความนุ่มของเนื้อมัฟฟินสีเหลืองชวนรับประทานแล้ว ยังมีไส้กรอกมาช่วยเพิ่มรสชาติ แถมยังสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างหรืออาหารรองท้องก่อนก็ได้ด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
เนยสดละลาย 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
บัตเตอร์มิลค์ 1 ถ้วย
เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
เกล็ดข้าวโพดบดละเอียด (Cornmeal) 1 ถ้วย
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
สเปรย์กันติดสำหรับเคลือบพิมพ์
พิมพ์มัฟฟิน
ไส้กรอกตามชอบ หั่นเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว

มัฟฟินมินิฮอทดอก
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้
2. ตีผสมเนยสดกับน้ำตาลเข้าด้วยกัน เติมไข่ไก่ลงไปตีให้เข้ากัน ตามด้วยบัตเตอร์มิลค์ ตีผสมให้เข้ากันอีกครั้งจนส่วนผสมเนียน
3. ร่อนเบกกิ้งโซดา เกล็ดข้าวโพด แป้งสาลี และเกลือป่นเข้าด้วยกัน ใส่ลงในส่วนผสมครีมแล้วตีผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
4. ฉีดสเปรย์กันติดลงบนพิมพ์มัฟฟิน ตักส่วนผสมใส่ลงในหลุม หลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นไส้กรอกลงไป
5. นำไปอบประมาณ 8-12 นาที จนมัฟฟินสุกเป็นสีเหลืองทอง นำออกจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จนเย็น นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
เมื่อพูดพิมพ์มัฟฟิน หรือพิมพ์คัพเค้กหลาย ๆ หลุม หลายคนก็คงนึกถึงการทำขนมมัฟฟินเป็นเมนูแรก เพราะชื่อก็บอกประโยชน์ของการใช้ในตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยจะขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่า พิมพ์มัฟฟินไม่ได้มีเอาไว้ทำมัฟฟินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทุกคนสามารถพิมพ์มัฟฟินมาทำอาหารจานเด็ดโดนใจได้หลายเมนูเลยทีเดียว อย่างน้อย ๆ ก็ 20 ไอเดียอาหารจิ๋วจากพิมพ์มัฟฟิน อร่อยเด็ดโดนใจ ที่รับรองว่าหลังจากได้ลิ้มลองรสชาติของมันแล้ว จะรู้สึกฟินกันถ้วนหน้าอย่างแน่นอน
http://cooking.kapook.com/view95874.html
1. คัพเค้กพายไก่
คัพเค้กของทุกคนจะอร่อยมากกว่าที่เคยด้วยคัพเค้กพายไก่ ที่มีทั้งความกรอบของเนื้อแป้งหลังการอบ พร้อมไส้ไก่แสนอร่อย แถมยังมีประโยชน์มากมายจากผักหลากหลายชนิดอีกด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งสำหรับทำบิตกิสสำเร็จรูป 2 กระป๋อง
อกไก่ต้ม หั่นเต๋า 1 ถ้วยตวง
ซุปไก่ชนิดครีม 1 กระป๋อง
เชดดาร์ชีสขูดฝอย
ผักรวมแช่แข็ง เช่น แครอทหั่นเต๋า ถั่วฝักยาว เม็ดข้าวโพด และเม็ดถั่วแระ
สมุนไพรอบแห้ง
ผงหัวหอมป่น
เกลือผสมผงกระเทียม
พิมพ์มัฟฟิน
1. นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ในถ้วยยกเว้นแป้งสำเร็จรูป แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน (ไม่จำเป็นต้องนำผักไปละลายน้ำแข็งก่อน เพราะน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนผักจะทำให้ผักสุกพอดีกับวัตถุดิบอื่น ๆ หลังจากที่อบคัพเค้กพายไก่เสร็จแล้ว)
2. กดแป้งสำเร็จรูปลงในพิมพ์มัฟฟิน แล้วเติมส่วนผสมข้างต้นใส่ลงไปในแป้ง โดยให้ระดับของส่วนผสมล้นขึ้นมาเหนือขอบแป้งเล็กน้อย
3. นำไปอบประมาณ 15 นาที นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
http://cooking.kapook.com/view95874.html

คัพเค้กพายไก่ ดูวิธีทำได้ที่ tablespoon.com
1. คัพเค้กพายไก่
คัพเค้กของทุกคนจะอร่อยมากกว่าที่เคยด้วยคัพเค้กพายไก่ ที่มีทั้งความกรอบของเนื้อแป้งหลังการอบ พร้อมไส้ไก่แสนอร่อย แถมยังมีประโยชน์มากมายจากผักหลากหลายชนิดอีกด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งสำหรับทำบิตกิสสำเร็จรูป 2 กระป๋อง
อกไก่ต้ม หั่นเต๋า 1 ถ้วยตวง
ซุปไก่ชนิดครีม 1 กระป๋อง
เชดดาร์ชีสขูดฝอย
ผักรวมแช่แข็ง เช่น แครอทหั่นเต๋า ถั่วฝักยาว เม็ดข้าวโพด และเม็ดถั่วแระ
สมุนไพรอบแห้ง
ผงหัวหอมป่น
เกลือผสมผงกระเทียม
พิมพ์มัฟฟิน

วิธีทำ
1. นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ในถ้วยยกเว้นแป้งสำเร็จรูป แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน (ไม่จำเป็นต้องนำผักไปละลายน้ำแข็งก่อน เพราะน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนผักจะทำให้ผักสุกพอดีกับวัตถุดิบอื่น ๆ หลังจากที่อบคัพเค้กพายไก่เสร็จแล้ว)
2. กดแป้งสำเร็จรูปลงในพิมพ์มัฟฟิน แล้วเติมส่วนผสมข้างต้นใส่ลงไปในแป้ง โดยให้ระดับของส่วนผสมล้นขึ้นมาเหนือขอบแป้งเล็กน้อย
3. นำไปอบประมาณ 15 นาที นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)